เส้นทางสู่นายสิบทหารบก
การสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก และนักเรียนนายสิบเหล่าทหารราบ
โรงเรียนนายสิบทหารบก เป็นสถาบันที่ผลิตนายทหารชั้นประทวนให้กับกองทัพบก มี ระยะเวลาการศึกษา 1 ปี โดย 6 เดือนแรกจะเน้นศึกษาวิชาทหารแต่ก็จะมีวิชาการเล็กๆน้อยๆที่ร.ร.นายสิบทหารบก หลังจากนั้นจึงจะให้นักเรียนนายสิบเลือกเหล่าที่ตนเองต้องการศึกษาตามลำดับคะแนนของ 6 เดือนแรก เพื่อแยกศึกษาต่อที่ร.ร.เหล่าใน 6 เดือนหลังและบรรจุหลังจบการศึกษา แบ่งออกเป็นจำนวน 13 เหล่า ดังนี้
1. เหล่าทหารราบ
2. เหล่าทหารม้า
3. เหล่าทหารปืนใหญ่
4. เหล่าทหารช่าง
5. เหล่าทหารสื่อสาร
6. เหล่าทหารขนส่ง
7 เหล่าทหารสรรพาวุธ
8. เหล่าทหารพลาธิการ
9. เหล่าทหารการเงิน
10. เหล่าทหารสารวัตร
11. เหล่าทหารแพทย์
12. เหล่าทหารการสัตว์
13. เหล่าทหารการข่าว
ประเภทบุคคลที่จะรับสมัคร
1. บุคคลพลเรือน เพศชาย อายุ 17-22 ปี (รับทั้งผู้เรียนนศท.และไม่เรียนนศท.)
2. ทหารกองประจำการ (ทุกผลัด) ในสังกัดกองทัพบก (ไม่ต้องรอปลดประจำการ) อายุไม่เกิน 24 ปี
3. พลทหารประจำการ ( พลอาสาสมัคร ) เพศชาย ในสังกัดกองทัพบก อายุไม่เกิน 24 ปี
4. อาสาสมัครทหารพราน เพศชาย ในส่วนของกองทัพบก อายุไม่เกิน 24 ปี
คุณสมบัติของผู้สมัคร
1. สำเร็จการศึกษา มัธยมศึกษาศึกษาตอนปลาย (ม.6) สายสามัญ สายอาชีพ หรือเทียบเท่า ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ และผู้ที่กำลังรอผลการศึกษา
2. เป็นชายไทย อายุตั้งแต่ 17 ปี ถึง 22 ปี ( ปีที่สมัครลบปีพ.ศ.เกิด ) ไม่รับสมัครผู้ที่มีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ซึ่งต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ และผู้ที่ขอผ่อนผันทุกกรณี ยกเว้นผู้ที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรการฝึกวิชาทหาร ตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 (รด.ปี 3) ขึ้นไป ซึ่งต้องมีหลักฐานใบสำคัญ หรือหากเป็นทหารกองหนุนต้องมีใบกองหนุน (สด.8) หรือ ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (สด.43) มาแสดงต่อกรรมการรับสมัคร
3. ทหารกองประจำการ, พลทหารประจำการ (พลอาสาสมัคร) และ อาสาสมัครทหารพราน ในส่วนของกองทัพบก มีอายุไม่เกิน 24 ปี (ถ้าสมัครนักเรียนนายสิบเหล่าทหารราบจะต้องประจำการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี)
4. มีสัญชาติไทยและบิดา มารดา มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแล้ว มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
5. มีอวัยวะ รูปร่าง ลักษณะท่าทาง และขนาดของร่างกายเหมาะแก่การเป็นทหาร ไม่เป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
6. เป็นชายโสด ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรม ไม่เป็นผู้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว
7. ไม่อยู่ในสมณะเพศ
8. ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างเป็นจำเลยในคดีอาญา และไม่เคยต้องคำพิพากษาโทษจำคุก เว้นแต่ความผิดในลักษณะลหุโทษ หรือ ความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
9. ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างพักราชการเนื่องจากความผิด หรือหนีราชการ
10. ไม่เป็นผู้ถูกปลดเพราะความผิด หรือถูกไล่ออกจากราชการ
11 ไม่เคยทุจริตในการสมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบกมาก่อน
12. ต้องได้รับอนุญาตจาก บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง ให้สมัครเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก
13. ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติดหรือสารเคมีเสพติดให้โทษ
14. ต้องว่ายน้ำได้เป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 25 เมตร
15. ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจโรค ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ตามเกณฑ์ที่กำหนด
16. ไม่เป็นผู้ที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองประจำการ ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ในปีที่สมัครสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก
พิกัดขนาดร่างกาย
โรคและความพิการที่ขัดต่อการเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก
1 ร่างกายผิดปกติ หรือวิกลรูปหรือพิการ
1 หน้าผิดรูปจนดูน่าเกลียดอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- อัมพาตที่หน้า ( Facial paralysis)
- เนื้อกระตุก ( Tics)
- แผลเป็นหรือปานที่หน้า มีเนื้อที่ตั้งแต่ 1.5ตารางนิ้วขึ้นไปหรือมีความยาวมากจนดูน่าเกลียด
- เนื้องอก ( Benign neoplasm) ที่หน้ามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 5 ซ.ม.ขึ้นไป
2 ปากผิดรูปจนดูน่าเกลียด เช่น แหว่ง หรือผิดรูปจนพูดไม่ชัด
3 ช่องปากผิดรูป หรือผิดปกติจนพูดไม่ชัด
4 ซอกคอหรือซอกรักแร้ติดกัน
5 แขน หรือ ขา
- ยาวไม่เท่ากัน หรือผิดรูปจนมองเห็นได้ชัด
- โค้งเข้าหรือออก
- ลีบหรือบิดเก
6 มือ หรือ เท้า
- ลีบหรือบิดเก
- เท้าปุก
7 นิ้วมือ หรือ นิ้วเท้า
- บิดเกและทำงานไม่ถนัด
- ด้วนถึงโคนเล็บ
- มีจำนวนเกินกว่าหรือน้อยกว่าปกติ
- ช่องว่างระหว่างนิ้วหรือนิ้วเท้าติดกัน
8 คนเผือก
2 กระดูกและกล้ามเนื้อ
1 ข้อติด ( Ankylosis) หรือหลวมหลุดง่าย
2 ข้ออักเสบจนกระดูกเปลี่ยนรูป
3 คอเอียงหรือแข็งทื่อจากกระดูกหรือกล้ามเนื้อพิการ
4 กระดูกสันหลังคด หรือโก่ง หรือแอ่นจนเห็นได้ชัด
5 กระดูกอักเสบ ( Osteomyelitis )
6 กล้ามเนื้อเหี่ยวลีบหรือหดสั้น ( Atrophy or contracture )
3 ผิวหนัง
1 โรคผิวหนังเรื้อรังซึ่งยากต่อการรักษาหรือเป็นที่น่ารังเกียจ
2 แผลเป็น ไฝ ปาน ที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีขนาดตั้งแต่ 1.5 นิ้ว x 1.5 นิ้ว ขึ้นไปหรือมากจนดูน่าเกลียด
3 มีรอยสักบนส่วนต่างๆของร่างกาย
4 เนื้องอกเล็ก ๆ เป็นปุ่ม ๆ ที่ผิวหนังทั้งร่างกาย ( Molluscum fibrosum )
5 ฝังมุก
4 ตา
1 สายตาผิดปกติ แม้เพียงข้างเดียวโดยที่แก้ไขให้เป็น Spherical Equivalent แล้ว เกินกว่า 1.5 ไดออปเตอร์ Spherical Equivalent นั้นมีความหมายว่าในการตรวจสอบสายตานั้น ถือ สายตาสั้นหรือยาวเป็นสำคัญ ถ้ามีสายตาเอียงร่วมด้วยจะแก้สายตาเอียงนั้นให้เป็นสายตาสั้นหรือยาว คือทำให้เป็น Spherical Equivalent ถ้าแก้สายตาสั้นหรือยาวนั้นมากกว่า 1.5 ไดออปเตอร์ ก็ถือว่าไม่สามารถเป็นนักเรียนนายสิบทหารบกได้
2 บอดสี
3 ตาเหล่ ( Squint ) จนปรากฎชัด
4 ลูกตาสั่น ( Nystagmus )
5 แก้วตาขุ่น ( Cataract )
6 กระจกตาขุ่น ( Opacity of cornea )
7 กระจกตาอักเสบเรื้อรัง ( Chronic interstitial keratitis )
8 หนังตาแหว่งจนเสียรูป
9 หนังตาตก
10 หนังตาม้วนเข้า ( Entropion ) หรือหนังตาม้วนออก ( Ectropion )
11 ช่องหนังตา ( Palpebral fissure ) กว้างไม่เท่ากันจนดูน่าเกลียด
12 ต้อหิน
5 หู คอ จมูก
1 ใบหูผิดรูปหรือผิดขนาดจนปรากฏชัด
2 ช่องหูมีหนองเรื้อรัง
3 แก้วหูทะลุ
4 การได้ยินเสียงผิดปกติ
5 โรคหรือความพิการใด ๆ ที่ทำให้เสียงผิดปกติ
6 เพดานโหว่ หรือเพดานสูงจนพูดไม่ชัด
7 จมูกผิดรูปจนดูน่าเกลียด เช่น บี้ หรือแหว่ง
8 ริดสีดวงจมูก ( Nasal polyp
9 ต่อมทอลซิลอักเสบเรื้อรังและโตมาก (ในวันตรวจเพื่อรับเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ )
10 พูดติดอ่าง
6 ฟัน
1 มีฟันไว้เคี้ยวอาหารได้ไม่ครบตามหลักเกณฑ์ คือ กำหนดฟันกราม ( Molars )และฟันกรามน้อย ( Premolars )อย่างน้อยข้างบน 6 ซี่ และข้างล่าง 6 ซี่ ฟันหน้า ( Incisors and canines )ข้างบน 4 ซี่ ข้างล่าง 4 ซี่ ฟันที่ถอนไปแล้วหากได้รับการใส่เรียบร้อยมั่นคงหรือด้วยวิธีทำสะพาน ( Bridge )จึงให้นับเป็นจำนวนซี่ได้ ฟันตามจำนวนดังกล่าวข้างต้นนั้นจะต้องไม่มีลักษณะดังนี้
- ฟันที่เป็นรูผุที่ไม่ได้รับการอุด หรืออุดด้วยวัตถุที่ไม่ถาวร
- ฟันที่อุดหรือทำครอบไม่เรียบร้อย
- ฟันน้ำนม
- ฟันตาย เว้นแต่คลองประสาทได้รับการอุดที่ถูกต้องแล้ว
- ฟันยาวผิดปกติ หรือขึ้นผิดที่ หรือเกจนไม่สามารถที่จะจัดให้สบกันได้กับฟันธรรมดาหรือฟันปลอม
- มีการทำลายอย่างรุนแรงของอวัยวะที่รองรับตัวฟัน เช่น กระดูก เหงือก เยื่อหุ้มรากฟัน
2 มีช่องว่างระหว่างฟันหน้าห่างจนดูน่าเกลียด
3 การสบของฟันที่ผิดปกติอย่างมากจนทำให้ใบหน้าผิดรูป หรือการเคี้ยวอาหารธรรมดาไม่ได้ผล
4 ถุงน้ำ ( Cysts ) การอักเสบที่เรื้อรัง หรือโรคเหงือกอักเสบอย่างรุนแรง หรือพยาธิสภาพอื่นๆ ในปาก เช่น ฟันคุด ฟันที่ยังไม่ขึ้น หรือฟันที่ขึ้นผิดที่ซึ่งสภาพการเช่นนี้ อาจทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะข้างเคียงหรือสุขภาพของผู้สมัคร
7 หัวใจและหลอดเลือด
1 หัวใจพิการแต่กำเนิด ( Congenital heart disease )
2 ลิ้นหัวใจพิการ
3 หัวใจวายและมีเลือดคั่ง ( Congestive heart failure )
4 การเต้นของหัวใจผิดปกติ เร็วกว่า 100 ครั้ง/นาที หรือช้ากว่า 50 ครั้ง/นาที
5 อนิวริซึมของหลอดเลือดใหญ่
6 หลอดเลือดดำขอดที่ขาหรือแขน ซึ่งเป็นมากจนเห็นได้ชัด
8 ระบบหายใจ
1 วัณโรคปอด ( Pulmonary tuberculosis )
2 หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ( Chronic bronchitis )
3 หลอดลมขยายพอง ( Bronchiectasis )
4 หืดหลอดลม
5 มีน้ำหรือหนอง หรือลมในช่องเยื่อหุ้มปอด
6 หลอดลมอักเสบซึ่งกำลังปรากฏอาการฟังได้ชัดเจน
9 ระบบทางเดินอาหาร
1 ตับแข็ง ( Cirrhosis of liver )
2 ฝีที่ตับ ( Abscess of liver)
3 ดีซ่าน ( Jaundice )
4 ริดสีดวงทวารหนักที่เห็นได้ชัด
5 ฝีคัณฑสูตร ( Perianal abscess )
6 ไส้เลื่อน
10 ระบบทางเดินปัสสาวะ อวัยวะสืบพันธุ์ รวมทั้งกามโรค
1 ไตอักเสบเรื้อรัง
2 ไตพองเป็นถุงน้ำ ( Hydronephosis or polycysfic Kidney )
3 ไตพองเป็นถุงหนอง ( Pyonephrosis )
4 นิ่วในไตจนทำให้ไตเสื่อมสมรรถภาพอย่างถาวร ( Renal calculus with permanent impairment of renal function )
5 กล่อนน้ำ ( Hydrocele )
6 หลอดเลือดดำขอดที่ถุงอัณฑะ ( Varicocele )
7 กะเทย ( Hermaphrodism )
8 กามโรคที่ปรากฏอาการอย่างหนึ่งอย่างใด
11 ระบบจิตประสาท
1 โรคจิต ( Psychosis )
2 อัมพาต หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติ
3 โรคลมชัก ( Epilepsy )
4 ปัญญาอ่อน ( Mental deficiency )
5 ใบ้
12 ระบบต่อมไร้ท่อ
1 โรคคอพอก ( Simple goiter )
2 ธัยโรทอกธิโคซิส
3 มิกซิเดมา ( Myxedema )
4 เบาหวาน ( Diabetes mellitus )
5 โรคอ้วนพี ( Obesity )
13 โรคของเลือดและอวัยวะก่อกำเนิดเลือด ( disease of blood and blood forming organ ) ผิดปกติอย่างถาวรและอาจเป็นอันตราย
14 โรคติดเชื้อหรือโรคเกิดจากปาราสิต ( Infectious and parasitic disease )
1 โรคเรื้อน
2 โรคเท้าช้างที่ปรากฏอาการ
3 วัณโรคของอวัยวะอื่น
4 โรคคุดทะราด หรือ รองพื้น ( Yaws )
5 โรคติดต่ออันตราย
15 เนื้องอก
1 เนื้องอกไม่ร้าย ( Benign neoplasm ) ที่มีขนาดใหญ่
2 เนื้องอกร้าย ( Malignant neoplasm ) ไม่ว่าจะเป็นแก่อวัยวะใด
16 โรคพิษสุราเรื้อรังหรือติดยาเสพติดให้โทษ
17 โรคหรือความพิการใด ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ แต่คณะกรรมการแพทย์เห็นว่าไม่สมควรรับเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก
18 โรคเอดส์
คะแนนเพิ่มพิเศษสำหรับผู้สมัคร
1. ผู้สำเร็จหลักสูตรการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ 1 ถึงชั้นปีที่ 5
2. บุตรของผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ หรือเหรียญกล้าหาญ
3. บุตรของทหาร ข้าราชการ หรือคนงาน ซึ่งต้องประสบอันตรายถึงทุพพลภาพ ในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ หรือต้องบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษ ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือได้รับเงินค่าทำขวัญตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยคนงาน
4. บุตรของทหาร ข้าราชการ หรือคนงาน ซึ่งได้กระทำหน้าที่ในระหว่างเวลาที่มีการรบ หรือสงคราม หรือ มีการปราบปรามการจลาจล หรือในระหว่างที่มีพระบรมราชโองการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีสิทธิได้นับเวลาราชการเป็นทวีคูณตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
5. นักกีฬาทีมชาติ นักกีฬาทีมเขต (กีฬาแห่งชาติ) นักกีฬาทีมเยาวชนแห่งชาติ นักกีฬาเขตการศึกษา นักกีฬาทีมสโมสร ( เฉพาะถ้วย ก. ) และนักกีฬากองทัพบก ซึ่งออกให้โดย คณะกรรมการบริหารโอลิมปิกแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย กรมพลศึกษา สมาคมการกีฬาแต่ละประเภท หรือสำนักงานคณะกรรมการพัฒนากีฬากองทัพบก
6. ทหารกองประจำการที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการสนาม ไม่น้อยกว่า ๑๒๐ วัน ก่อนวันที่จะสมัครเข้ารับการสอบคัดเลือก
จำนวนที่รับ
1. บุคคลพลเรือน 1188 นาย
2. กองหนุน/พลอาสาสมัคร/ทหารกองประจำการ/อาสาสมัครทหารพราน 792 นาย
3. นักเรียนนายสิบเหล่าทหารราบ 600 นาย
กำหนดการรับสมัคร จะเริ่มจำหน่ายระเบียบการประมาณเดือน ธ.ค. และจะเริ่มรับสมัครประมาณปลายเดือน ม.ค. โดยการรับสมัครจะมีคณะกรรมการไปรับสมัครทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง ดังนี้
- กองทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก
- กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา
- มทบ.24 จ.อุดรธานี
- กองทัพภาคที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช
- กรมยุทธศึกษาทหารบก กทม.
วิชาที่สอบ
- ภาควิชาการ รอบแรกสอบ 4 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
- ภาคพลศึกษา รอบที่สอง ได้แก่
- ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย (ต้องผ่านเกณฑ์ต่ำสุดทุกสถานี และรวมกันเกิน 50%)
- ดึงข้อ เกณฑ์ขั้นต่ำ 3 ครั้ง เกณฑ์50% 7 ครั้ง เกณฑ์100% 15 ครั้ง
- ดันพื้น(2นาที) เกณฑ์ขั้นต่ำ 10 ครั้ง เกณฑ์50% 34 ครั้ง เกณฑ์100% 84 ครั้ง
- ลุกนั่ง(30วินาที) เกณฑ์ขั้นต่ำ 11 ครั้ง เกณฑ์50% 21 ครั้ง เกณฑ์100% 38 ครั้ง
- วิ่ง1,000ม. เกณฑ์ขั้นต่ำ 4.45 นาที เกณฑ์50% 4.15 นาที เกณฑ์100% 3.25 นาที
- ว่ายน้ำ 25 เมตร ภายใน 2 นาที
- ตรวจโรค ประวัติิอาชญากรรม สัมภาษณ์ ความสมบูรณ์ของร่างกาย
สิทธิประโยชน์ของนักเรียนนายสิบทหารบก
1. ไม่เสียค่าใช้จ่าย (ยกเว้นค่าใช้จ่ายส่วนตัว)
2. ได้รับการแจกจ่ายเครื่องแบบ และเครื่องใช้ส่วนตัว ตลอดการศึกษา
3. ได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 75 บาท (เป็นค่าอาหารที่ร.ร.)
4. ได้รับเงินเดือน เดือนละ 3,070 บาท
สิทธิเมื่อจบการศึกษา
1. บรรจุเข้ารับราชการและแต่งตั้งยศเป็น สิบตรี รับเงินเดือนระดับ ป.1 ชั้น 6 จำนวน 6,140 บาท
2. ผู้มีผลการศึกษาดี มีคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 3.50 และคะแนนรายวิชาไม่ต่ำกว่า 3.00 มีความประพฤติเรียบร้อย คะแนนความประพฤติตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไปถ้านักเรียนผู้นั้นสมัครใจ ให้ได้รับสิทธิ์เข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหารหรือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ทั้งนี้ จำนวนและหลักเกณฑ์การพิจารณาให้เป็นไปตามที่กองทัพบกกำหนดหากผู้ได้รับการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวสละสิทธิ์ หรือไม่สามารถเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหารหรือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าได้ ให้ผู้ที่สอบได้ลำดับรองลงไปที่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นได้รับสิทธิ์ในโรงเรียนเตรียมทหารหรือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าแทน โดยให้โรงเรียนนายสิบทหารบกเป็นผู้พิจราณาคัดเลือกแล้วรายงานกรมยุทธศึกษาทหารบก (ปัจจุบันคือ 18 นาย)
3. เมื่อรับราชการครบ 6 ปี และมีวุฒิปริญญาตรีตามที่กองทัพต้องการ สามารถสอบเลื่อนฐานะเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรได้
ข้อมูลดีๆจาก http://www.iqcentre.org/
ข้อมูลดีๆจาก http://www.iqcentre.org/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น